ทำไมเราถึงต้องซื้อสายไฟ AC Power ที่ได้มาตรฐาน มอก.?

   ปัญหาที่พบบ่อยที่สุด  เมื่อใช้สาย AC Power ที่ไม่ได้มาตรฐาน?

   ทั้งๆ ที่รู้ แต่ทำไมสาย AC Power ที่ไม่ได้มาตรฐาน ยังขายได้  ยังมีคนซื้อ?

   ใช้สาย AC ที่ได้มาตรฐาน มอก. ดีอย่างไร?

   วิธีง่ายๆ ในการดูสาย AC Power ว่าได้มาตรฐาน มอก.?

ปัญหาที่พบบ่อยที่สุด  เมื่อใช้สาย AC Power ที่ไม่ได้มาตรฐาน

 
1. ไม่ได้ต่อสายดิน

สาย AC Power ราคาถูกเกินกว่าความเป็นจริง มักมีการผลิตที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน และที่พบบ่อยคือไม่ได้ต่อสายดิน (ไม่ต่อกราวนด์) ถือเป็นปัญหาที่อันตรายมาก  เพราะการที่สายไฟไม่ได้ต่อกราวนด์  ทุกครั้งที่เราสัมผัสเครื่องใช้ไฟฟ้า  จะเสี่ยงต่อกระแสไฟฟ้ารั่ว  สามารถทำให้ผู้ใช้งานถูกไฟฟ้าดูด  นอกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายแล้ว อาจจะร้ายแรงกว่านั้นจนทำให้เกิดไฟไหม้ได้อีกด้วย

2. เข้าหัวไม่ได้มาตรฐาน

การเข้าหัวของสายไฟ AC Power ที่ใช้วัสดุไม่ได้คุณภาพ  หากหัวปลั๊กผลิตมาไม่ได้มาตรฐาน  ก็จะส่งผลต่อกระแสไฟ  ซึ่งหมายความว่า หากใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า อาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้งานได้



3. หัวปลั๊กไม่ได้คุณภาพ ใช้เหล็กชุบสี หรือ โลหะผสม เกิดสนิมง่าย

หัวปลั๊กคุณภาพ ที่ผลิตจากโรงงานได้มาตรฐานรับรอง  จะใช้หัวปลั๊กไฟที่เป็นทองแดง หรือ ทองเหลืองแท้ 100%  ซึ่งราคาต้นทุนจะสูง  แต่ไม่เป็นสนิม อายุการใช้งานจะทนทาน   แต่สายไฟ AC ที่ไม่ได้มาตรฐาน จะลดต้นทุนตรงส่วนนี้  โดยใช้หัวปลั๊กคุณภาพต่ำ  เป็นโลหะผสม หรือ เหล็กชุบสี  ทำให้เกิดสนิมง่าย  การเชื่อมต่อไม่ดี  เกิดปัญหาด้านความปลอดภัย  เนื่องจากอาจจะเกิดประกายไฟขึ้นได้



4. ลวดด้านใน ไม่ใช้ทองแดงแท้บริสุทธิ์ 100%

อีกปัญหาหนึ่งของสาย AC ราคาถูก คือ ไม่ใช้ทองแดงในการผลิต  จริงๆ แล้วจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้เส้นลวดทองแดงแท้ในการถ่ายโอนไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ  ถ้าใช้โลหะผสม หรือโลหะชนิดอื่นแทน  จะทำให้ลดทอนความสามารถในการนำไฟฟ้าและสิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้น 

ลวดภายในสายไฟ AC จะใช้ทองแดงเป็นวัสดุหลักในการนำไฟฟ้า  แต่ในปัจจุบัน ได้มีผู้ผลิตบางรายได้นำลวดอลูมิเนียม เข้าไปใช้แทนทองแดงในสายไฟ ซึ่งจะทำงานได้ไม่ดีในระยะยาว  บางที่ยิ่งแล้วใหญ่ ใช้ลวดดีบุก หรือสังกะสี  ซึ่งไม่เพียงแต่จะมีอายุการใช้งานที่สั้น  การได้รับพลังงานจะลดลงด้วย  เนื่องจากกระแสไฟฟ้าไหลผ่านสายไฟได้น้อยลง

5. ใช้เปลือกหุ้ม PVC ราคาถูก เพื่อลดต้นทุนการผลิต

สายไฟ AC ที่ไม่ได้มาตรฐาน  มักใช้ราคาในการจูงใจผู้บริโภคให้ซื้อมาใช้   นำวัสดุที่ถูกกว่ามาผลิตเพื่อลดต้นทุน  ทำให้เกิดปัญหาในการใช้งาน  การหุ้มสายด้วยชนิด PVC ราคาถูก  จะปริแตก หรือ เปราะ หักง่าย ไม่ยืดหยุ่นเมื่อสายมีความโค้งงอ   คงไม่ดีแน่ ถ้าสายไฟปริแตกออกเผยให้เห็นตัวลวดนำไฟฟ้าด้านใน  หรือเป็นสาเหตุของสายไฟขาดใน  สาย L เคลื่อนมาช๊อตกับสาย N ได้  อันตรายอย่างคาดไม่ถึง!

ทั้งๆ ที่รู้ แต่ทำไมสาย AC Power ที่ไม่ได้มาตรฐาน ยังขายได้  ยังมีคนซื้อ?

เจอคำถามนี้เข้าไปบางทีก็สับสน ตอบไม่ถูกเหมือนกัน  ที่ร้าน HOMENET48.com  ก็จะมีลูกค้ามาถามขอซื้อสายไฟ AC อยู่บ่อยๆ กับคำถามที่ว่า  "ขอสายที่ราคาต่ำกว่านี้ได้ไหม?  งบไม่พอ ได้มาน้อย  มีที่ถูกกว่านี้อีกไหม? "

ถ้าจะให้ตอบคำถามนี้จริงๆ ก็น่าจะเพราะเหตุผลเพียงไม่กี่ข้อ

• ถ้าราคาถูก  นำไปขายต่อจะได้กำไรมากขึ้น

• ซื้อไปแถมพร้อมกับอุปกรณ์อื่น  เพื่อลดต้นทุน

• ขอแค่เสียบติด ไม่ทนไม่เป็นไร เสียค่อยหาซื้อใหม่

• อาจมีเหตุผลด้านอื่นๆ อีก แต่คงไม่พ้นปัจจัยด้านราคาเป็นหลักในการตัดสินใจซื้อ

เราอยากให้ทุกคน หันมาเห็นถึงความสำคัญของสายไฟ AC ที่ได้มาตรฐาน  และไม่ควรซื้อสายราคาถูกที่ต่ำกว่ามาตรฐานมาใช้งาน  อยากให้มองไกลและคิดถึงผลเสียในระยะยาว

"จ่ายน้อยตอนนี้  อาจจะส่งผลให้เสียเงินจำนวนมากในภายหลัง"   เดี๋ยวจะกลายเป็น  "เสียน้อยเสียยาก  เสียมากเสียง่าย"

เราคงไม่อยากใช้คำว่า  "รู้งี๊...ไม่น่า......เลย"

ใช้สาย AC ที่ได้มาตรฐาน มอก. ดีอย่างไร?

• ต่อสายกราวด์ทั้งหมด  ใช้งานได้อย่างสบายใจ ไร้กังวล


• หัวผลิตจากทองแดง หรือ ทองเหลืองแท้ 100% ไม่เป็นสนิม  มีความทนทาน  เสียบได้แน่น  ผลิตเข้าหัวได้มาตรฐาน  มีตรา มอก. ประทับรับรอง บนหัวปลั๊ก (หัวแบบ 2 ขา และ 3 ขากลม มอก.)

* การได้มาซึ่งสัญลักษณ์โลโก้ TIS บนหัวปลั๊กไฟ ไม่ใช่เรื่องง่าย  ทางโรงงานผู้ผลิตต้องได้รับใบ Certificate รับรองจาก สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.)  ว่าสามารถผลิตได้  และโรงงานได้รับการตรวจสอบแล้วว่า ผลิตได้คุณภาพตรงตามมาตรฐาน  ถึงจะสามารถประทับตรา มอก. TIS ลงบนหัวปลั๊กไฟได้

• ใช้ทองแดงแท้บริสุทธิ์ 100% ในการผลิตลวดสายไฟด้านใน  การใช้ทองแดงแท้ทำให้เรามั่นใจได้ว่า  สายไฟที่ใช้มีการนำความร้อนและทนความร้อนได้ดี  ต่อเชื่อมกับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัย   สายไฟคุณภาพสูง จะช่วยลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าช็อตและไฟไหม้ได้

• หุ้มด้วย PVC ชนิดดีมีคุณภาพ  ทำให้ยืดหยุ่น สามารถงอได้โดยไม่หัก  ลดการเกิดสายไฟขาดใน  มั่นใจได้ว่าสายจะมีความคงทน  แม้ว่าจะใช้งานสมบุกสมบัน มีการเสียบเข้าถอดออกบ่อยแม้ใช้ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูง (ทนความร้อนได้กว่า 70º)

 

วิธีง่ายๆ ในการดูสาย AC Power ว่าได้มาตรฐาน มอก.?

ก่อนอื่นคงต้องมาว่ากันถึงเรื่องมาตรฐาน มอก. ในสายไฟ AC Power กันก่อน  สายไฟ AC ที่ผลิตใช้ในประเทศไทย  มีหัวปลั๊กอยู่หลายรูปแบบ  ซึ่งการได้รับตรา มอก. ประทับ เราจะพิจารณาแยกกันระหว่าง  มอก.หัวปลั๊ก  กับ มอก.สายไฟ

หัวปลั๊ก

หัวปลั๊กสำหรับสายไฟ AC Power ที่เป็นมาตรฐานสำหรับประเทศไทย (ตอนนี้มีแล้วนะ ที่เป็นของไทย เมื่อก่อนยังไม่มี)  จะเป็นรูปแบบ  มอก. 166-2549  ซึ่งเป็นแบบ 2 ขากลม  กับ 3 ขากลม

จุดสังเกต  ให้สังเกตเครื่องหมายโลโก้ ที่ประทับบนตัวหัวปลั๊ก ว่ามีตรา มอก. (TIS) ลักษณะนี้บนหัวปลั๊ก  หรือ บางรุ่นอาจจะระบุ " มอก. 166-2549" ลงบนหัวปลั๊กเลยก็มี

สายไฟ

สายไฟ AC Power  ที่ใช้เสียบกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์  และ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ  ที่ได้รับมาตรฐาน มอก. จะมีข้อมูลบอกรายละเอียดสายไฟ ประมาณนี้ (ตามตัวอย่างด้านล่าง) และที่ลืมไม่ได้  คือ  "มีตราประทับ มอก. บนตัวสาย"

นอกจากนี้ยังมีสายไฟ AC Power ที่ใช้หัวปลั๊กเฉพาะ สำหรับบางอุปกรณ์  เช่น

• สายไฟสำหรับเครื่อง PDU หรือ UPS
  
• สายไฟจอคอม
  
• สาย AC Power  3 รู
  
• สาย AC Power 2 รู
  

กลุ่มนี้เป็นสายไฟที่ผลิตมาใช้กับเครื่องปรินท์เตอร์  เครื่องจักร หรือ อุปกรณ์บางประเภท  เราไม่สามารถใช้หัวปลั๊กไฟ มอก. ของไทย ไปใช้แทนได้ทั้งหมด  ด้วยข้อจำกัดของช่องเสียบสายไฟเข้ากับตัวเครื่อง ที่ต้องใช้รูปแบบเฉพาะตามอุปกรณ์นั้นๆ  สายไฟจึงยังคงได้มาตรฐาน มอก. ส่วนหัวของปลั๊กไฟที่ใช้เสียบเข้าอุปกรณ์  ใช้เป็นไปตามมาตรฐานของปลั๊กต่างประเทศที่นำเข้ามาใช้งาน

ท้ายสุดก็ขอฝากข้อคิดไว้ซักนิดว่า

"เลือกสิ่งที่คิดว่าดีที่สุด เหมาะสมที่สุด  จะได้ไม่เสียใจภายหลัง"

ถ้าคุณกำลังมองหาสาย AC Power คุณภาพดี  ใช้แล้วไม่ผิดหวัง  ทางเรามีจำหน่ายหลายแบบมากมายให้เลือก  และที่สำคัญ ได้มาตรฐาน มอก.  "ราคาสูงหน่อย แต่ใช้ดีแน่นอน"

ถ้าสนใจลองคลิกเข้าไปดูก่อนได้ ที่นี่  ==>  สาย AC Power คุณภาพดี มี มอก.

บทความโดย  HOMENET48.com

อ้างอิง : www.tisi.go.th